สูตรเด็ดอาหารไทย อาหารไทย สุดยอดแห่งวัฒนธรรมอาหาร ต่างชาติยังต้องยอม

สูตรเด็ด อาหารไทย สูตรเด็ดต้นตำรับ อาหารไทย ใครเห็นเป็นต้องรู้ ว่านี่คืออาหารไทย

สูตรเด็ด อาหารไทยเมื่อพูดถึงอาหารไทยแล้ว ก็ต้องนึกถึงแกงร้อน ๆ กับข้าวสวยสักจาน อาหารไทย หรืออาหารประจำชาติไทย ที่เป็นเอกลักษณ์ และวัฒนธรรมการกิน จากรุ่นสู้รุ่น มาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน ซึ่งอาหารไทยนั้น ก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ถือว่าอาหารไทยนั้น

สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้ไม่น้อย เมนูอาหารไทยนั้น มีมากมาย ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด นึ่ง หรือแม้แต่เมนูปิ้งย่าง รวมไปถึงวัตถุดิบต่าง ๆ ที่มีอยู่ภายในประเทศไทย ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ หรือมิกส์แอนแมทช์ เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

และยังอร่อยอีกด้วย เรียกได้ว่าอาหารไทยนั้น ครบทุกมิติของการทำอาหาร และในวันนี้ เราจะมาบอก เมนูอาหารง่ายๆ สูตรอาหารไทย จะมีเมนูไหนกันบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

สูตรเด็ด อาหารไทย

1.สูตรอาหารไทยโบราณ ภาคกลาง เป็นการรวมผลไม้กับของคาว อย่าง แกงเขียวหวาน เข้าด้วยกัน จึงเกิดเป็นแกงเขียวหวานมังคุด เป็นเมนูแกงโบราณ ทำได้ง่าย ๆ ช่วยเพิ่มเสน่ห์ปลายจวัก ให้กับแม่บ้าน หลาย ๆ คนคงแปลกใจ ว่าทำไมถึงใส่มังคุด ลงไปในแกงเขียวหวาน

ซึ่งมีข้อสันนิษฐานว่า คนสมัยก่อนใส่ผลไม้ เพื่อใช้รสหวานของผลไม้ แทนการใส่น้ำตาล ซึ่งในสมัยก่อนน้ำตาลมีราคาสูง จึงเกิดการนำเอาผลไม้ที่มีรสหวาน มาใช้แทนนั่นเอง แกงเขียวหวานมังคุดนั้น วัตถุดิบหลักก็จะมี

เนื้ออกไก่ 200 กรัม พริกแกงเขียวหวาน 100 กรัม กะทิ 300 มิลลิลิตร น้ำตาลปี๊บหนึ่งช้อนโต๊ะ น้ำปลาหนึ่งช้อนโต๊ะ ใบโหระพาเศษหนึ่งส่วนสองถ้วยตวง มังคุด 50 กรัม มะเขือเปราะ 50 กรัม มะเขือพวง 50 กรัม ใบมะกรูด 10 กรัม พริกชี้ฟ้าแดง 20 กรัม

ส่วนวิธีการทำนั้นง่ายมาก ๆ เลย ขั้นตอนที่หนึ่ง แกะมังคุดและนำเนื้อมังคุดออก โดยใช้มีดแกะทีละกลีบ เพื่อไม่ให้มังคุดช้ำหรือเละ นำไปแช่น้ำเปล่าที่ผสมน้ำมะนาวไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของเนื้อมังคุดดำ ขั้นตอนที่สอง เทกะทิลงไปในหม้อเล็กน้อย

แล้วนำพริกแกงเขียวหวาน ลงไปผัดจนแตกมัน ใส่เนื้ออกไก่ลงไป ผัดจนพอสุก และเติมน้ำกะทิที่เหลือลงไป ตามด้วยมะเขือเปราะ มะเขือพวง และตั้งไว้จนเดือด ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ

และคนให้เข้ากัน รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่ใบมะกรูดฉีก พริกชี้ฟ้าใบ โหระพา และมังคุดที่แกะเตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากันเพียงเท่านี้ ก็สามารถนำไปรับประทานได้แล้ว ทานคู่กันกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือขนมจีนก็เข้ากัน อร่อยตามแบบฉบับไทย ๆ

แกงไทยอร่อยที่สุดแล้ว ทำเองก็ง่าย แถมยังใส่อะไรก็ได้ตามใจเรา

สูตรเด็ด อาหารไทย

2.แกงคั่วหัวตาลกุ้งสด สูตรเด็ด อาหารไทย แบบบ้าน ๆ เป็นเมนูแกงโบราณ รสชาติเข้มข้น ถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน แกงคั่วหัวตาลกุ้งสดนั้น ในปัจจุบัน แทบจะหาได้ยากมาก เพราะคนที่ทำเป็นนั้น มีค่อนข้างน้อย และไม่นิยมทำมาค้าขาย เป็นแกงถุงแกงสำเร็จรูปตามตลาด

เพราะถือว่าเป็นอาหารพื้นบ้านจริง ๆ โดยปกติแล้ว จะใช้เป็นเนื้อหมูย่าง แต่ในวันนี้ เราจะใช้เป็นกุ้งสดแทน บอกก่อนเลยว่า เป็นแกงที่ทำง่าย และรสชาติถูกใจอย่างแน่นอน มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย วัตถุดิบหลักก็จะมี

หัวตาลอ่อน 500 กรัม เกลือหนึ่งช้อนโต๊ะ กะทิ 750 กรัม กุ้งสดแกะเปลือก 300 กรัม น้ำปลาหนึ่งช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บหนึ่งช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียกหนึ่งช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดหั่นฝอยหนึ่งช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ สำหรับตกแต่ง

และเครื่องแกงที่เราจะต้องตำเอง ก็จะมีตะไคร้ 100 กรัม พริกแห้ง 100 กรัม กระเทียม 60 กรัม กระชาย 100 กรัม ขาอ่อน 30 กรัม ผิวมะกรูดหนึ่งช้อนโต๊ะ ปลาทูนึ่งแกะเนื้อ 100 กรัม ปลาอินทรีเค็มทอด 100 กรัม เกลือหนึ่งช้อนชา กะปิหนึ่งช้อนโต๊ะ

วิธีการทำขั้นตอนที่หนึ่ง ตำพริกแกงและลวกหัวตาล นำตะไคร้ พริกแห้ง กระเทียมกระชาย ข่าอ่อน ผิวมะกรูด และเกลือ ตำรวมกันจนละเอียด ใส่กะปิลงไป และเนื้อปลาทู จากนั้นตำให้ทุกอย่างเข้ากัน และตักขึ้นเตรียมไว้ จากนั้นต้มน้ำให้เดือด

ใส่เกลือและหัวตาลอ่อนลงไป ลวกประมาณ 10 นาที จึงนำไปล้างน้ำสะอาด ทำแบบนี้วนไปประมาณสามรอบ หรือจนหัวตาลอ่อนนุ่มและหมดรสขม จึงตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ ขั้นตอนที่สอง ต้มกะทิให้เดือดเล็กน้อย จากนั้นใส่พริกแกงลงไป คนให้เข้ากัน

ตั้งจนกะทิแตกมันเล็กน้อย และถ้าน้ำกะทิข้นเกินไป ก็เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย เมื่อกะทิเดือด ก็นำหัวตาลอ่อนใส่ลงไป คนให้เข้ากันรอให้เดือด จึงจะปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ตามด้วยกุ้งสด และรอให้เดือดอีกครั้ง

จากนั้นปิดไฟพร้อมจัดเสิร์ฟ ตกแต่งด้วยใบมะกรูดหันฝอย และพริกชี้ฟ้า โรยข้างบนหน้าของแกงที่ตักไว้ ก็เป็นอันเสร็จ บอกเลยว่าเมนูนี้ อร่อยหอมมันกลมกล่อมสุด ๆ ถ้ามีข้าวเปล่าซักจาน จะเพอร์เฟคสุด ๆ

สูตรเด็ด อาหารไทย หากินที่ไหนไม่ได้ ก็ทำกินเองที่บ้านได้ง่าย ๆ

สูตรเด็ด อาหารไทย

3. ยำทวาย ซึ่งเป็นเมนู สูตรเด็ด อาหารไทย แบบฉบับโบราณ สามารถทานได้ทั้งครอบครัว เพลิดเพลินกับการกินสุด ๆ ซึ่งเมนูนี้ ก็หารับประทานได้ยาก เราจึงต้องมาทำเอง เพื่อที่จะรู้ถึงรสชาติ และองค์ประกอบต่าง ๆ ในเมนูนี้จะประกอบไปด้วย ผักลวกหลากหลายชนิด

เนื้ออกไก่ต้มสุก ราดด้วยน้ำยำที่มีรสชาติกลมกล่อม คุกเขาทั้งหมดรวมกันบอกเลยว่ากินไม่หยุดอย่างแน่นอน ส่วนผสมของเครื่องยำนั้น มีเนื้ออกไก่ต้มสุก 80 กรัม พริกหยวก 80 กรัม มะเขือยาว 80 กรัม หัวปลี 80 กรัม ผักบุ้งไทย 80 กรัม ถั่วพู 80 กรัม ถั่วงอก 80 กรัม

กะทิหนึ่งถ้วยตวง แป้งข้าวเจ้า 1 ½ และวัตถุดิบสำหรับทำน้ำยำ ก็จะมีพริกชี้ฟ้าแห้ง 20 กรัม พริกขี้หนูแห้ง 20 กรัม กุ้งแห้ง 30 กรัม ตะไคร้ 20 กรัม หอมแดง 40 กรัม กระเทียม 40 กรัม รากผักชี 25 กรัม พริกไทยเม็ดหนึ่งช้อนชา ผิวมะกรูดหนึ่งช้อนชา กะปิหนึ่งช้อนชา

กะทิสามถ้วยตวง น้ำตาลปี๊บห้าช้อนโต๊ะ น้ำเปล่าสามช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียกสามช้อนโต๊ะ น้ำมันพืชสองช้อนโต๊ะ งาขาวคั่วสำหรับตกแต่ง ส่วนวิธีการทำ ขั้นตอนที่หนึ่ง เทกะทิใส่ในกระทะ และนำแป้งข้าวเจ้าใส่ลงไป คนให้แป้งละลายเข้ากับน้ำกะทิ

แล้วยกขึ้นไปตั้งบนเตา จนกะทิข้นจากนั้นเทใส่ถ้วยพักเอาไว้ ต่อมาต้มน้ำให้พอเดือด จากนั้นใส่อกไก่ต้ม ผักบุ้ง ถั่วพู ถั่วงอก มะเขือยาว หัวปลี และพริกหยวกลงไป ลวกทีละอย่างให้สุข และแช่น้ำเย็น พักเอาไว้จนน้ำเสด็จ ต่อมาจัดผักลวกที่สุขแล้วลงจาน

จัดเรียงให้สวยงาม ขั้นตอนที่สองทำน้ำยำ นำพริกชี้ฟ้าแห้ง พริกขี้หนูแห้ง กุ้งแห้ง ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม รากผักชี พริกไทย และผิวมะกรูด ตำให้ละเอียด เมื่อทุกอย่างเข้ากันดีจนละเอียด ใส่กะปิลงไป และทำทุกอย่างให้เข้ากัน จากนั้นตั้งกระทะ

ใส่น้ำมันพืชรอให้ร้อน จากนั้นก็เทเครื่องแกงที่ตำไว้ลงไป ผัดจนมีกินหอม และใส่น้ำกะทิลงไป เศษหนึ่งส่วนสี่จากทั้งหมด ผัดให้กะทิแตกมัน จากนั้นเติมกะทิส่วนที่เหลือ รอให้เดือดแล้วปรุงรส ด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา

และน้ำมะขามเปียก เคี่ยวต่อไปจนข้น และตักใส่ถ้วยพักไว้ให้เย็น ขั้นตอนที่สาม ตักน้ำกะทิสำหรับราดลงไปในผักลวก และอกไก่ และโรยด้วยหอมเจียว หรือโรยด้วยงาขาวคั่ว เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ สูตรเด็ด อาหารไทย ที่ไม่ค่อยเคยได้เห็น หรือไม่เคยได้ทานกันเลย รู้แบบนี้แล้ว ไปหาซื้อของมาลองทำกันดูนะคะ รับรองว่าผัวรักผัวหลงแน่นอนค่ะ แถมยังช่วยอนุรักษ์ อาหารไทย อีกด้วย และสำหรับครั้งหน้า จะมารีวิว เมนูอาหารไทยง่ายๆ หรือ ข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร หรืออาหารการกินต่าง ๆ ก็ฝากติดตามด้วยนะคะ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ @UFA-X10

 

เรียบเรียงโดย แพรรี่คนสวย

Scroll to Top